Search Engine Results Pages หรือ SERPs คือหน้าแสดงผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ที่แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้ SERPs มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำ Search Engine Optimization (SEO) เพราะเป็นตัวกำหนดว่าเว็บไซต์ของคุณจะปรากฏอย่างไรบนหน้าผลการค้นหา

SERPs ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักสองส่วน:

1. ผลลัพธ์แบบออร์แกนิก (Organic Results)
2. ผลลัพธ์แบบมีค่าใช้จ่าย (Paid Results)

ผลลัพธ์แบบออร์แกนิกคือลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่ Google พิจารณาว่าเกี่ยวข้องและมีคุณภาพสูงสุดสำหรับคำค้นหานั้นๆ การจัดอันดับของผลลัพธ์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับอัลกอริทึมของ Google ซึ่งพิจารณาปัจจัยมากกว่า 200 รายการ

• Favicon: ไอคอนของเว็บไซต์
• Site Name: ชื่อเว็บไซต์
• Page Title: ชื่อหน้าเว็บ (Title Tag)
• URL: ที่อยู่ของหน้าเว็บ
• Meta Description: คำอธิบายย่อของหน้าเว็บ

• วันที่เผยแพร่
• Sitelinks: ลิงก์ไปยังส่วนอื่นๆ ของเว็บไซต์
• Rich Snippets: ข้อมูลเพิ่มเติมเช่น ดาวรีวิว รูปภาพ หรือข้อมูลอีเวนต์

ผลลัพธ์แบบมีค่าใช้จ่ายคือโฆษณาที่ปรากฏบน SERPs ซึ่งจะมีคำว่า “Sponsored” กำกับไว้ โฆษณาเหล่านี้มาจากการที่ผู้ลงโฆษณาเสนอราคาสำหรับคำค้นหาเฉพาะผ่าน Google Ads

ข้อมูลล่าสุดจาก Rank Ranger มีโฆษณาปรากฏบน หน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ถึง 18.49%, จำนวนโฆษณา เฉลี่ยต่อหน้า 1.93 โฆษณา ซึ่งจะปรากฏทั้งด้านบนและล่างของ หน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ซึ่งนั่นทำให้บดบังผลลัพธ์ทั่วไปได้อย่างแนบเนียน

Search Engine สร้าง SERPs ตามคำค้นหาที่ผู้ใช้ส่งมา และจัดอันดับผลลัพธ์ตามความเกี่ยวข้อง คุณภาพ และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย

การสร้างผลลัพธ์ใน SERP ขึ้นอยู่กับ 3 กระบวนการพื้นฐาน:

• Crawling (การรวบรวมข้อมูล) – การค้นหาหน้าเว็บ บนเว็บไซต์
• Indexing (การทำดัชนี) – การจัดเก็บเนื้อหาจากหน้าเว็บ ไปยังไลบรารีของเครื่องมือค้นหา (ดัชนี)
• Ranking (การจัดอันดับ) – การเรียงลำดับและการแสดงหน้าเว็บ ที่จัดทำดัชนีแล้วใน SERPs

เมื่อผู้ใช้พิมพ์คำค้นหาใน Google เครื่องมือค้นหาจะเรียกดูดัชนีเพื่อตรวจสอบว่าหน้าเว็บใดที่อาจเกี่ยวข้องกับผู้ใช้ และจัดเรียงลำกับในการแสดงผลลัพธ์ตามปัจจัยการจัดอันดับต่างๆ

นอกจากผลลัพธ์แบบออร์แกนิกและแบบมีค่าใช้จ่ายแล้ว SERPs ยังมีคุณลักษณะพิเศษอื่นๆ ที่สำคัญ:

Featured Snippets คือส่วนของเนื้อหาที่ถูกดึงมาจากหน้าเว็บเพื่อตอบคำถามของผู้ใช้โดยตรงบน SERPs มีหลายรูปแบบ เช่น:

• FAQ (คำถามที่พบบ่อย): ย่อหน้าสั้น ๆ สำหรับคำถามประเภท “คืออะไร” และ “ใครคือ”
• Bulleted List (รายการแสดงหัวข้อย่อย): สำหรับการจัดอันดับหรือรายการ “ที่ดีที่สุด”
• Numbered List (รายการลำดับตัวเลข): สำหรับคำแนะนำ วิธีทำ หรือสูตรอาหาร
• Tables (ตาราง): สำหรับแสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ

• Knowledge Graph และ Knowledge Panel: แสดงข้อมูลสรุปเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ หรือสิ่งของ
• Local Pack: แสดงธุรกิจในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา
• ผลลัพธ์รูปภาพและวิดีโอ
• People Also Ask: คำถามที่เกี่ยวข้องที่ผู้ใช้มักถามต่อ
• Top Stories: ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา

การเข้าใจ SERPs มีความสำคัญต่อการทำ SEO เพราะ:

1. ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของการแข่งขันสำหรับคำค้นหาเป้าหมาย
2. ช่วยในการวางกลยุทธ์เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฏในตำแหน่งที่โดดเด่น
3. ช่วยในการออกแบบ Snippets ให้น่าสนใจและได้รับการคลิกมากขึ้น
4. ช่วยในการวางแผนเนื้อหาเพื่อให้ได้ Featured Snippets

1. ปรับปรุง Title Tags และ Meta Descriptions: สร้าง Snippets ที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ใน การทำ SEO บนหน้าเว็บ (On-page SEO)
2. สร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามอย่างตรงประเด็น: เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ Featured Snippets โดยใช้กลยุทธ์การสร้างเนื้อหาสำหรับ SEO
3. ใช้ Schema Markup: เพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นและอาจแสดงเป็น Rich Snippets ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Technical SEO
4. ปรับปรุง Local SEO: เพื่อปรากฏใน Local Pack สำหรับการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น
5. สร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมและลึกซึ้ง: เพื่อตอบคำถามที่เกี่ยวข้องและอาจปรากฏใน “People Also Ask” โดยใช้การวิจัยคำสำคัญ (Keyword Research)

นอกจากนี้ การทำ SEO นอกหน้าเว็บ (Off-page SEO) ก็มีความสำคัญในการเพิ่มอันดับบน SERPs เช่นกัน

การทำความเข้าใจ SERPs และองค์ประกอบต่างๆ เป็นพื้นฐานสำคัญของการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ SERPs อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ SEO ได้อย่างเหมาะสม เพิ่มโอกาสในการปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหา และได้รับการคลิกจากผู้ใช้มากขึ้น การเข้าใจประเภทต่างๆ ของ SEO จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนกลยุทธ์ SEO ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น